หงเติงหลง(红灯龙) หมายถึง โคมไฟสีแดง เป็นสัญลักษณ์แห่งสิริมงคลที่ชาวจีนนิยมแขวนประดับไว้ในช่วงที่มีพิธีการสำคัญ ๆ หรืองานเลี้ยงฉลองสำคัญ ๆ “โคมไฟ” หรือ “เติงหลง” (灯笼)
จำทำขึ้นมาจากโครงไม้ไผ่ ปะติดรอบโครงด้วยกระดาษ ด้านในมีเทียนไขวางไว้
ส่วนด้านบนเจาะเป็นช่องระบายอากาศและความร้อน
และยังใช้เป็นที่สำหรับแขวนประดับหรือยึดจับเป็นไม้ถือโคม
สำหรับ
ชาวจีนแล้ว โคมไฟเป็นวัฒนธรรมมงคลที่สร้างขึ้นเพื่อเสริมความมีสิริมงคล
เพราะโคมไฟนั้นเป็นวัตถุให้แสงสว่างแก่มนุษย์
การประดับโคมไฟก็คือการให้แสงสว่างแก่สถานที่นั้น ๆ
และโคมไฟที่ระบายหรือตกแต่งด้วยสีแดง
ก็เป็นความหมายถึงสีสัญลักษณ์มงคลด้วยเช่นกัน ใน เทศกาลหยวนเซียว(元宵) หรือที่รู้จักกันว่า เทศกาลโคมไฟ ตรง
กับวันที่ 15 ค่ำ เดือนอ้าย(เดือนหนึ่ง)ตามปฏิทินจันทรคติจีน
หรือก็คือหลังตรุษจีน 15 วัน ในคืนนี้ พระจันทร์สุกสกาวเต็มดวง
ชาวจีนจะนิยมออกไปท่องเที่ยวชมทิวทัศน์
เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีใหม่
เป็นการสิ้นสุดเทศกาลตรุษจีนในคืนวันนี้ ในสมัยโบราณ บ้านเรือนต่าง ๆ
จะนิยมแขวนประดับโคมไฟหลายรูปแบบหลากสีสัน
ทำให้ตลอดทั่วทั้งตัวเมืองสว่างไสวด้วยแสงแห่งโคมไฟในยามราตรีที่ล้วนแต่มา
จากแสงจากโคมไฟคืนวันหยวนเซียว
ใน
สมัยโบราณนั้น
ไม่เพียงแต่ชาวเมืองต่างพากันออกมาชื่นชมความงามของโคมไฟเท่านั้น
ยังมีการละเล่นอีกอย่างหนึ่งที่เรียกกันว่า “การทายปริศนาโคมไฟ” หรือ “เซ่อเติงหู่”(射灯虎)โดย
มีการเขียนคำปริศนาลงไว้บนตัวโคมไฟ
และแขวนไว้ให้ผู้ที่มาชื่นชมดูขบคิดและทายปริศนากันอย่างสนุกสนาน
ธรรมเนียมดังกล่าวเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในสมัยราชวงศ์ฮั่น, ถัง, ซ่ง
และ หมิง และค่อย ๆ ลดความนิยมลงในสมัยราชวงศ์ชิง
จนกระทั่งถึงปัจจุบันที่หลงเหลือธรรมเนียมเช่นนี้ไม่มากนัก
นอกจากนี้ ยังมีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับเทศกาลโคมไฟ(เทศกาลหยวนเซียว) กล่าวว่า เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในสมัย พระเจ้าหมิงตี้(明帝)
แห่งราชวงศ์ฮั่น พระองศ์ทรงมีรับสั่งให้พสกนิกรจุดโคมไฟทุกวันที่15
ค่ำเดือนอ้าย ทั้งภายในพระราชวังและวัดวาอารามรอบ ๆ เมือง
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการสักการะต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นการรำลึกถึงการรับเอาพระพุทธศาสนามาสู่ราชวงศ์ฮั่น
พระเจ้าหมิงตี้(明帝)
ในการแขวนประดับโคมไฟนี้ ไม่เพียงแต่แพร่หลายในเทศกาลหยวนเซียวแต่ยังมีอีกวันหนึ่งที่ชาวบ้านชาวเมืองนิยมแขวนประดับโคมไฟ นั่นก็คือ “คืนไหว้พระจันทร์” หรือ “จงชิวเจี๋ย”(中秋节) ที่รอบ ๆ เมืองจะมีสีสันของโคมไฟประดับอยู่ทั่วทั้งเมืองจะ
เห็นได้ว่า “โคมไฟสีแดง” หรือ “หงเติงหลง”
เป็นโคมไฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวัฒนธรรมจีน
มีการแขวนประดับอย่างแพร่หลายตั้งแต่วังหลวงจนถึงสามัญชน
จากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน
และทำให้ทุกวันนี้โคมไฟสีแดงจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์มงคลที่อยู่คู่กับงาน
มงคลทุกแห่งหน
ฮวงจุ้ยโคมไฟในบ้าน
ก่อนที่จะติดโคมไฟภายในบ้านนั้น
จึงจำเป็นต้องทราบตำแหน่งที่ติดให้ดี
ว่าตำแหน่งใดติดแล้วดีตำแหน่งใดติดแล้วมีผลเสียตามมา
การเลือกตำแหน่งไม่เหมาะสมนั้น
จะทำให้เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศับมีสุขภาพที่ไม่ดี ล้มป่วยได้
ตำแหน่งของการติดโคมไฟนั้น ต้องมีความกลมกลืนจากแสงธรรมชาติและแสงจากหลอดไฟ
แยกประเภทและตำแหน่งการติดโคมไฟไว้ดังนี้ ฮวงจุ้ย โคมไฟ หลอดไฟ
โคมไฟติดเพดาน ต้องประหยัดไฟ ให้แสงสว่างกระจาย สามารถติดได้ทั่วไป ทั้งห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ
โคมไฟแขวนเพดาน ทั้งแบบยุโรป แบบจีน ตามที่เจ้าของบ้านชอบ
ห้องรับแขกเป็นห้องที่เหมาะกับการติดโคมไฟประเภทนี้
ส่วนห้องที่ไม่เหมาะคือห้องนอน
โคมไฟแบบฝังฝ้า
เหมาะกับทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก บริเวณทางเดิน หรือระเบียง
ยกเว้นห้องครัว คือ ห้องที่ไม่เหมาะสมกับการติดโคมไฟประเภทนี้
โคมไฟติดฝาผนัง มักติดบริเวณทางเดิน ห้องรับแขก ห้องนอน เป็นโคมไฟที่ปรับและควมคุมแสงสว่างในห้องได้อย่างดี
โคมไฟสปอร์ตไลท์ ควรติดเฉพาะเวลาที่มีความจำเป็น เช่น
ตกแต่งในงานต่างๆเพื่อเพิ่มความสว่าง และจุดเด่น แต่ไม่ควรติดนานๆ
เพราะมีผลต่อดวงตาเป็นอย่างมาก
โคมไฟประเภทอื่นๆ เช่น
หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะให้แสงสว่างดี
ทั้งยังประหยัดพลังงานอีกด้วย ส่วนโคมไฟตั้งโต๊ะ
ไม่ควรวางให้ส่องหน้าของผู้ใช้โดยตรง จะส่งผลต่อสุขภาพตาได้
เมื่อมีแสงสว่างที่ใช้ในการมองเห็นทางสายตาแล้ว
ก็จำเป็นต้องมีแสงสว่างทางใจ ทางมี “สติ” เป็นเครื่องนำทางสู่แสงสว่างทาง
“ปัญญา” ด้วย จะได้ไม่หลงทาง เสียเวลาในการดำเนินชีวิต
ลองสำรวจดูนะค่ะ ว่าตอนนี้ชีวิตเดินไปถูกทางแล้วหรือยัง
ก่อนที่จะติดโคมไฟภายในบ้านนั้น
จึงจำเป็นต้องทราบตำแหน่งที่ติดให้ดี
ว่าตำแหน่งใดติดแล้วดีตำแหน่งใดติดแล้วมีผลเสียตามมา
การเลือกตำแหน่งไม่เหมาะสมนั้น
จะทำให้เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศับมีสุขภาพที่ไม่ดี ล้มป่วยได้
ตำแหน่งของการติดโคมไฟนั้น ต้องมีความกลมกลืนจากแสงธรรมชาติและแสงจากหลอดไฟ
แยกประเภทและตำแหน่งการติดโคมไฟไว้ดังนี้ ฮวงจุ้ย โคมไฟ หลอดไฟ
โคมไฟติดเพดาน โคมไฟประเภทนี้จะประหยัดไฟ ให้แสงสว่างกระจาย สามารถติดได้ทั่วไป ทั้งห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ
โคมไฟแขวนเพดาน ทั้งแบบยุโรป แบบจีน ตามที่เจ้าของบ้านชอบ
ห้องรับแขกเป็นห้องที่เหมาะกับการติดโคมไฟประเภทนี้
ส่วนห้องที่ไม่เหมาะคือห้องนอน
โคมไฟแบบฝังฝ้า
เหมาะกับทั่วไป ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก บริเวณทางเดิน หรือระเบียง
ห้องครัวคือห้องที่ไม่เหมาะสมกับการติดโคมไฟประเภทนี้
โคมไฟติดฝาผนัง มักจะติดบริเวณทางเดิน ห้องรับแขก ห้องนอน เป็นโคมไฟที่ปรับและควมคุมแสงสว่างในห้องได้อย่างดี
โคมไฟสปอร์ตไลท์ ควรติดเฉพาะเวลาที่มีความจำเป็น เช่น
ตกแต่งในงานต่างๆเพื่อเพิ่มความสว่าง และจุดเด่น แต่ไม่ควรติดนานๆ
เพราะมีผลต่อดวงตาเป็นอย่างมาก
โคมไฟประเภทอื่นๆ เช่น
หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะให้แสงสว่างดี
ทั้งยังประหยัดพลังงานอีกด้วย ส่วนโคมไฟตั้งโต๊ะ
ไม่ควรวางให้ส่องหน้าของผู้ใช้โดยตรง จะส่งผลต่อสุขภาพตาได้
เมื่อมีแสงสว่างที่ใช้ในการมองเห็นทางสายตาแล้ว
ก็จำเป็นต้องมีแสงสว่างทางใจ ทางมี “สติ” เป็นเครื่องนำทางสู่แสงสว่างทาง
“ปัญญา” ด้วยเช่นกัน จะได้ไม่หลงทาง เสียเวลาในการดำเนินชีวิต
ลองสำรวจดูนะค่ะ ว่าตอนนี้ชีวิตเดินไปถูกทางแล้วหรือยัง สวัสดีค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น